เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 3. อมูฬหวินัย
อมูฬหวินัยชอบธรรม 3 กรณี
หมวดที่ 1
[199] การให้อมูฬหวินัยชอบธรรม 3 หมวด เป็นไฉน
ภิกษุทั้งหลาย ก็ในกรณีนี้ ภิกษุวิกลจริต มีจิตแปรปรวน ภิกษุนั้นผู้วิกลจริต
มีจิตแปรปรวนได้ประพฤติละเมิดสิ่งที่ไม่สมควรแก่สมณะเป็นอาจิณมากมาย ทั้งที่กล่าว
ด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย สงฆ์หรือภิกษุมากรูป หรือภิกษุรูปเดียวโจทภิกษุ
นั้นว่า “ท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึกอาบัติเห็นปานนี้” ภิกษุนั้นระลึกไม่ได้จึงกล่าว
อย่างนี้ว่า “ท่าน ผมต้องอาบัติแล้ว แต่ระลึกอาบัติเห็นปานนี้ไม่ได้” สงฆ์ให้อมูฬห-
วินัยแก่ภิกษุนั้น การให้อมูฬหวินัยชอบธรรม

หมวดที่ 2
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุที่วิกลจริต มีจิตแปรปรวน ภิกษุนั้น
ผู้วิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดสิ่งที่ไม่สมควรแก่สมณะเป็นอาจิณ
มากมาย ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย สงฆ์หรือภิกษุมากรูป หรือ
ภิกษุรูปเดียวโจทภิกษุนั้นว่า “ท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึกอาบัติเห็นปานนี้” ภิกษุนั้น
ระลึกไม่ได้จึงกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่าน ผมระลึกได้เหมือนความฝัน” สงฆ์ให้อมูฬหวินัย
แก่ภิกษุนั้น การให้อมูฬหวินัยชอบธรรม

หมวดที่ 3
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุวิกลจริต มีจิตแปรปรวน ภิกษุนั้น
ผู้วิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดสิ่งที่ไม่สมควรแก่สมณะเป็นอาจิณ
มากมาย ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย สงฆ์หรือภิกษุมากรูป หรือ
ภิกษุรูปเดียวโจทภิกษุนั้นว่า “ท่านต้องอาบัติแล้วจงระลึกอาบัติเห็นปานนี้” ภิกษุนั้น
ยังวิกลจริตอยู่ ทำเป็นวิกลจริตว่า “ผมก็ทำอย่างนี้ แม้ท่านทั้งหลายก็ทำอย่างนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :314 }


พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 4. ปฏิญญาตกรณะ
สิ่งนี้ควรแม้แก่ผม สิ่งนี้ควรแม้แก่ท่านทั้งหลาย” สงฆ์ให้อมูฬหวินัยแก่ภิกษุนั้น การ
ให้อมูฬหวินัยชอบธรรม
การให้อมูฬหวินัยชอบธรรม 3 หมวดเหล่านี้
อมูฬหวินัย จบ

4. ปฏิญญาตกรณะ
ว่าด้วยระงับอธิกรณ์ตามคำรับของจำเลย
เรื่องพระฉัพพัคคีย์
[200] สมัยนั้น พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ลงโทษภิกษุทั้งหลายโดยมิได้ปฏิญญา คือ
ลงตัชชนียกรรมบ้าง นิยสกรรมบ้าง ปัพพาชนียกรรมบ้าง ปฏิสารณียกรรมบ้าง
อุกเขปนียกรรมบ้าง
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์จึงลงโทษภิกษุทั้งหลายโดยมิได้ปฏิญญาเล่า คือ ลงตัชชนียกรรมบ้าง
นิยสกรรมบ้าง ปัพพาชนียกรรมบ้าง ปฏิสารณียกรรมบ้าง อุกเขปนียกรรมบ้าง”
แล้วได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า ฯลฯ
จริงหรือ”
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาค ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถารับสั่ง
กับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงลงโทษภิกษุทั้งหลายโดยมิได้ปฏิญญา
คือ ลงตัชชนียกรรมบ้าง นิยสกรรมบ้าง ปัพพาชนียกรรมบ้าง ปฏิสารณียกรรมบ้าง
อุกเขปนียกรรมบ้าง รูปใดลง ต้องอาบัติทุกกฏ”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :315 }